PHILIPPINES ESL (English as a Second Language) TOUR PROGRAM
http://www.tourism.gov.ph/Special/esl3.asp
เหมาะกับใคร
=========
-เงินน้อย
-อยากฝึกพูดฟัง+มีเพื่อน กับคนที่ไม่ได้พูดไทย ใน class
-หัดพูดอังกฤษ จะแต่งประโยคสักประโยคยังต้องนึกนานๆ
-ต้องการวอร์มอัพ ก่อนไปเรียนต่อ
(ผมคิดว่าน่าจะ save เงินได้เยอะ ถ้าจะไปวอร์มอัพแบบเดียวกันในที่ๆ ค่าครองชีพแพงกว่า)
-เห็นว่า accent ไม่จำเป็นต้อง native เปะๆ
เพราะในบางโค้งของชีวิตอาจต้องคุยกับคน india, malay, singapore, Indo, พม่า, เวียดนาม และอื่นๆอีกร้อยกว่าประเทศ
accent ใน england ยังไม่เหมือนกันในบางพื้นที่
อังกฤษแบบอังกฤษ ยังไม่เหมือนกับอังกฤษอเมริกัน และ
พร้อมจะปรับตัวเมื่อต้องฟังหรือสื่อสารกับคนที่พูดใน accent ที่ไม่คุ้นเคย
ทำไมไปเรียนที่ Philippines จึงดี
=========================
1. ถูก
ค่าเครื่องไปกลับ (ตอนผมไปค่าเครื่องรวมภาษีแล้ว ประมาณ 8พันบาท)
ค่ากิน ตัวนี้ผมว่าแพงกว่าอยู่ในเทพ แต่ถูกกว่าที่ประเทศอื่นแน่ๆ
ค่าอยู่ (ที่ที่ผมไปพักเป็นห้องรวม air-con รวมน้ำไฟ เดือนละ 1,500 บาท)
ค่าเล่าเรียน ที่ที่ผมไปสมัครเป็นส่วนของในมหาลัย ราคาก็จะถูกกว่าที่เป็นเอกชนข้างนอก
ตกหลักสูตรละ 4 พันกว่าบาท จันทร์ถึงศุกร์ วันละ2ชม. ระยะเวลา 2 สัปดาห์ (นอกห้องเรียนต่างหาก)
2. เพื่อนในห้องก็ไม่ได้เป็นแต่คนไทยที่พูด accent เดียวกัน
ตอนที่ผมนั่งรอสมัครอยู่ คนที่มาสมัครด้วย เป็น ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์เอง แล้วก็ผู้หญิงอีกคนมาจากแถวๆอาหรับ (จำชื่อประเทศไม่ได้)
เรื่อง accent นี่ฮามาก มีอยู่ครั้งนึงผมพูดคำว่า sure ใน accent แบบไทยๆ (ไม่ได้วางลิ้นให้ถูกต้อง)
เขาถามกลับมาว่าตะกี้พูดภาษาจีนหรอ ......(--___------- !)
3. ไม่ต้องขอวีซ่า (แต่ต้องไปขอ Special Study Permit (SSP) ที่ Immigration ตอนถึงที่นู่นแล้ว)
ที่ที่ผมไปสมัครเรียนมาคือที่นี่ครับ
DE LA SALLE UNIVERSITY-CENTER FOR LANGUAGE LEARNING
http://www.dlsu.edu.ph/academics/colleges/ced/cell/default.asp
(ตามที่ได้ยินมาเขาออกเสียงว่า เด ลา เซล คับ)
ลำดับขั้นตอนการสมัครเรียนคร่าวๆ
====================
1.หาที่พัก
2.เปิดบัญชีธนาคาร + ขอใบรับรอง
3.เอา Affidavit of Support ไปให้ Notary Public ลงตรารับรอง
4.ไปขอ Certificate of Acceptance + Guaranty จากสถาบัน
5.ไปขอ Special Study Permit (SSP) ที่ Immigration
6.สอบวัดระดับ + ลงทะเบียนเรียนที่สถาบัน
1.หาที่พัก
======
หาที่พักก่อนไปขอ Bank certification นะคับ เพราะเราต้องลงรายละเอียด ที่อยู่ที่จะติดต่อได้
http://www.ymcamanila.com
2.เปิดบัญชีธนาคาร + ขอใบรับรอง
=====================
หาแบงค์ที่ดูดีน่าเชื่อถือหน่อยก็จะดีนะคับ
ประสพการณ์แย่ๆที่ทำให้ผมพูดอย่างนี้คือ
แบงค์ที่ผมไปเปิดมันคงมี printer เครื่องเดียว
และไม่รู้ทำมันมันมา print เอกสาร น่าจะเป็นประเภทรายงาน ตอนกลางวัน(แสก)
ผมต้องรอเอกสารใบรับรองที่อยู่ใน queue printer นี้ เกือบ 3ชม.
ค่าธรรมเนียมเอกสาร 200 peso (150บ.)คับ
3.เอา Affidavit of Support ไปให้ Notary Public ลงตรารับรอง
==================================================
ถ้าload Affidavit of Support จาก url ข้างบน +พิมพ์มาจากบ้านแล้ว ก็ไม่ต้องวนไปที่สถาบันก่อน
ถ้าไม่ได้ทำมาก็ไปขอสำเนาจากที่สถาบันได้คับ
Notary Public (ตามที่เข้าใจ) เป็นสำนักกฏหมายคับ ไปให้เขารับรองเอกสาร
คล้ายๆกับที่เราเซ็นต์สำเนาถูกต้องอะคับ
คงจะเพื่อให้มีผลทางกฏหมายมั้ง (ไม่ถูกก็ขออภัยคับ)
ไปถึงเขาก็ปั๊มตรากับเซ็นต์ลายเซนต์
ค่าธรรมเนียม 100 peso (75บ.) คับ
4.ไปขอ Certificate of Acceptance + Guaranty จากสถาบัน
=================================================
เอาเอกสารข้างบน +
สำเนา passport หน้าที่มีรูปเรา +
สำเนา passport หน้าที่เจ้าหน้าที่ที่สนามบินปั๊มว่าเข้า ph เมื่อไหร่ อยู่ได้ถึงเมื่อไหร่
ไปแสดงให้ครบนะคับ
5.ไปขอ Special Study Permit (SSP) ที่ Immigration
==============================================
จากสถาบันไปไม่มี jepsey ที่วิ่งตรงไปลงที่นั่นเลย มีแบบเฉียดๆ แล้วเดินเอานิดหน่อย
นั่ง taxi ไปน่าจะแถวๆ 80 peso
ไปรถไฟฟ้าก็ได้ เฉียดๆ แล้วต้องเดินต่อเอา (ไกลเหมือนกัน)
เอกสารตอนผมสมัคร ดูเป็นตัวอย่างแล้วกันนะครับ เผื่อใครสนใจ
No comments:
Post a Comment